“‘ต๊ะ’ ต้องกลับมานะลูก เผยลูกชายเพิ่งไปทำงานเป็นช่างไฟที่ตึกได้เพียงวันเดียว”

วันที่ 1 เม.ย.2568 ที่บ้านนาสีนวล ต.ตาลเลียน อ.กุดจับ จ.อุดรธานี นางสงกรานต์ กงไสยา อายุ 59 ปี นั่งเฝ้ารอข่าวลูกชาย นายเอนกพงศ์ กงไสยา หรือ ต๊ะ อายุ 23 ปี หนึ่งในผู้สูญหายเหตุการณ์อาคารสตง. ที่กำลังก่อสร้างพังถล่มหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว โดยมีเพื่อนบ้านมาพูดคุยให้กำลังใจ ซึ่งทุกคนล้วนเชื่อว่าต้องมีข่าวดี ต๊ะ ต้องรอดชีวิตออกมาแต่งงานกับแฟนสาวตามกำหนดวันที่ 16 เม.ย.นี้

แม่สงกรานต์ บอกว่า มีลูก 3 คน ต๊ะเป็นลูกชายคนสุดท้อง ก่อนหน้านี้ลูกชายบอกว่าจะไปทำงานที่ไซต์งานก่อสร้างที่จ.จันทบุรี แต่วันเกิดเหตุแฟนของลูกสาวโทรมาบอกว่าตอนนี้เราย้ายงานมาทำงานที่ตึกสตง.มาทำงานได้แค่วันเดียว ตอนที่ตึกถล่มต๊ะอยู่ภายในอาคาร ได้ยินแบบนั้นแม่เข่าทรุดทำอะไรไม่ถูก แฟนลูกยังบอกอีกว่าตอนเกิดเหตุนั้นต๊ะหนีออกมาได้ แต่มีคนร้องเรียกขอความช่วยเหลือต๊ะเลยวิ่งกลับเข้าไปในตึกเพื่อช่วยเพื่อนแต่ตึกถล่มลงมา

ลูกชายคนนี้ไปทำงานแผนกช่างไฟ หลังเกิดเหตุแม่ก็โทรศัพท์ไปหาลูก ตอนแรกไม่คิดว่าลูกจะอยู่ที่ตึกถล่มแห่งนี้ เข้าใจว่าลูกทำงานอยู่จันทบุรี พอได้ยินข่าวตึกถล่มน้องแป้งแฟนของต๊ะโทรมาบอกว่า พยายามโทรหาต๊ะแต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ ตอนนี้เวลาผ่านไป 5 วันแล้ว พ่อและพี่ชายรวมทั้งแฟนของต๊ะพากันไปกรุงเทพฯเพื่อเฝ้าติดตามสถานการณ์อยู่ที่จุดเกิดเหตุ ทราบจากแป้งแฟนลูกว่า เจ้าหน้าที่ที่กำลังช่วยกันหาบอกได้แต่ให้รอ ส่วนแม่เฝ้ารอฟังข่าวอยู่ที่บ้านอุดรธานีแม่สงกรานต์ บอกด้วยว่า แม่นอนไม่หลับ เฝ้าแต่หวังว่าลูกชายจะรอด หวังมีปาฏิหาริย์ให้ลูกชายบ้าง อยากเห็นหน้าลูกชายมาก เขามีแผนจูงมือแฟนสาวคือน้องแป้งมาแต่งงานที่บ้านวันที่ 16 เม.ย.นี้ และอีกอย่างลูกชายเป็นจิตอาสาสักเลข 9 ไทยที่หน้าอกด้านซ้าย” อยากฝากถึงกู้ภัยหากเจอร่างแม้จะมีชีวิตหรือไม่ก็ตามแม่ก็รับได้ เขาจะมีจุดสังเกตของลูกชายสักเลข 9 ไทยตรงหน้าอกด้านซ้าย “ต๊ะต้องกลับมานะลูก มาแต่งงานสมกับที่เจ้ารอคอยวันที่เป็นครอบครัวอบอุ่น” หัวอกแม่พูดไปน้ำตาก็คลอไป เฝ้าหวังให้มีปาฏิหาริย์กับลูกชายคนสุดท้องคนนี้ ”